MGI วางกลยุทธ์ ดันยอดขายพีครับซีซั่น คาดรายได้ทั้งปีโต 100%


MGI วางกลยุทธ์ ดันยอดขายพีครับซีซั่น คาดรายได้ทั้งปีโต 100%

ล่าสุด เปิดฉากบุกตลาดซีรีส์ - จัดประกวด Miss Grand Thailand 2024

 

MGI วางโรดแมพการเติบโตปี 67 มั่นใจปีนี้คาดรายได้เติบโตเท่าตัว 100% จากปีก่อน ล่าสุดแถลงแผนการผลิตละครซีรีส์เรื่องใหม่ ชื่อ “หยดฝนกลิ่นสนิม” โดยมีนักแสดงนำคือ “อิงฟ้า วราหะ” และ “ชาล็อต ออสติน” ตีตลาดทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้ง จัดการประกวด Miss Grand Thailand 2024 ปัจจุบันเริ่มเก็บตัวผู้เข้าประกวด เผยสปอนเซอร์หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก คาดโตพีคเป็น 2 เท่าจากปีก่อน

 

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยว่า เป้าหมายปี 2567 คาดรายได้เติบโตเท่าตัว 100% จากปีก่อน ด้วยจุดแข็ง ธุรกิจของ MGI เดินหน้าสร้างการเติบโต ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี รวมทั้ง ช่องทางโซเชียลมีเดีย และ Grand TV มี Engagement ในระดับสูง ความนิยมที่เพิ่มขึ้น พารทเนอร์ที่เข้ามา และการมีกระแสเงินสดที่สร้างความแข็งแกร่งให้ MGI เดินหน้าธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

โดยล่าสุด MGI เปิดฉากบุกตลาดซีรีส์ จัดแถลงแผนการผลิตละครซีรีส์เรื่องใหม่ ชื่อ “หยดฝนกลิ่นสนิม” โดยมีนักแสดงนำคือ “อิงฟ้า วราหะ” และ “ชาล็อต ออสติน” โดยซีรีส์เรื่องดังกล่าวจะมีความยาวจำนวนประมาณ 10 ตอน และจะเริ่มออกอากาศในช่วง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 โดยบริษัทฯ จะแจ้งวันที่ออกอากาศอีกครั้ง 

 

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ คาดว่าจะมีผู้รับชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดใช้เงินลงทุน 30-40 ล้านบาท มองสิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่า โดยรายได้จะมาจาก 1) การขายสปอนเซอร์ 2) แพลตฟอร์มแบบดูฟรี และ uncut  เปิดเป็นระบบสมาชิก 3) กลุ่มปิดตามติดกองถ่าย 4) สินค้าที่นำมาจำหน่ายในธีมซีรีส์ และ 5) ธุรกิจกับต่างประเทศ โดยจะนำซีรีส์แปลเป็นภาษาต่างประเทศบนแพลตฟอร์ม จะฉายที่ช่องทางไหนรอถึงเวลาเหมาะสม จะจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการ และแจ้งทุกท่านอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ MGI เตรียมเปิดฉากการประกวด “Miss Grand Thailand 2024” โดยจะแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 มีนาคม 2567 ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงเก็บตัวผู้เข้าประกวด พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ นับเป็นอีเวนท์ใหญ่ประจำปี นำนางงามสร้างฐานมวลชน ทำให้มองว่าภาพรวมไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 2/2567 เป็นซีซั่นในการสร้างรายได้จากนางงามผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด โดยปัจจัยสนับสนุนรายได้มาจาก 

1) สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนการประกวดมีเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว คาดเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัว

2) รายได้จากการขายสินค้า เป็นการ Live ขายสินค้าจากเหล่านางงามผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด 

3) รายได้จากการโหวต โดยการแข่งขันในแต่ละรอบจะมีการเปิดโหวต และคัดนางงามจาก 77 คน เหลือ 8 คนในรอบสุดท้าย ซึ่งจะจัดวันที่ 6 เมษายนนี้

 

โดยช่วง Popular Vote ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก สถิติการโหวตปีที่ผ่านๆ มา MGI ได้เงินเข้ามาหลายล้านบาท ด้วยฐานแฟนคลับของนางงามทุกคน ทำให้ Engagement กลับมาค่อนข้างเยอะ

 

 

 

สำหรับรอบสุดท้าย วันที่ 6 เมษายน 2567 จะคัดเลือกเหลือ 10 คนสุดท้าย การันตีตำแหน่ง ทุกคนไม่จำเป็นว่าต้องได้ที่ 1 รองอันดับ 5 ก็สามารถดังได้ และสามารถสร้างรายได้เข้ามา กลยุทธ์แกรนด์ จะเลือกคนที่ขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจได้ด้วย ทำให้เกิดค่านิยม ความนิยม และรายได้

 

4) รายได้จากการขายบัตร จะมีการจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ ตามมา รวมทั้ง คอนเสิร์ตใหญ่ของมิสแกรนด์

 

ซึ่งนอกเหนือจากการประกวดนางงาม อีกกลยุทธ์ คือ เราหากลุ่ม T- Pop จำนวน 8 คน สร้างผลงานสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ จะมีการจัดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2024 เป็นการประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล ครั้งที่ 12 กำหนดจัดการประกวดเริ่มขึ้นตั้งแต่ ตุลาคม 2567 ณ ย่างกุ้ง ประเทศพม่า 

 

ทั้งนี้ MGI รายงานผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวม 616 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 93% มีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149% มาจากทุกธุรกิจเติบโตขึ้น โดยธุรกิจพาณิชย์เติบโตจากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ขายสินค้าของบริษัทผ่านช่องทางขายใหม่ คือ TikTok รวมถึง ธุรกิจสื่อและบันเทิง และธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน เติบโตขึ้นเมื่อเทียบปีก่อน โดยอัตรากำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 19.36% เพิ่มขึ้นจาก 15.05% ในปี 2565 เนื่องจากมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น